13 ธันวาคม 2552

ประเภทของกรีฑา

กรีฑาประเภทลู่ มีดังต่อไปนี้

          1. การวิ่งระยะสั้น หมายถึง การวิ่งในทางวิ่งหรือลู่วิ่งที่เรียบ ซึ่งมีระยะทางไม่เกิน 400 เมตร
นับจากจุดเริ่มต้น นักกีฬาแต่ละคนจะต้องวิ่ง 100 เมตร 200 เมตร 400 เมตร ซึ่งมีท่ามาตรฐาน ที่นิยมกันอยู่ 3 แบบ ดังต่อไปนี้


               -ท่าอีลองเกตเหมาะกับนักกรีฑาที่มีรูปร่างสูงโปร่งเมื่อนักกีฬาเข้านั่งคุกเข่า
ประจำที่เรียบร้อยแล้วเข่าของเท้าหลังที่จรดพื้นจะอยู่ในระดับเดียวกับส้นเท้าหน้าปลายเท้าหน้าอยู่ห่างจากเส้นเริ่มประมาณ 13 นิ้ว ปลายเท้าหลังอยู่ห่างจากเส้นประมาณ 41 นิ้ว


               -ท่ามีเดียมเหมาะกับนักกรีฑาที่มีรูปร่างสันทัดปานกลางเมื่อนักกีฬา
นั่งคุกเข่าประจำที่เข่าของเท้าหลังที่วางจรดพื้นจะอยู่ในระดับเดียวกับปลายเท้าหน้าปลายเท้าหน้าห่างจากเส้นเริ่มประมาณ 15 นิ้ว ปลายเท้าหลังห่างจากเส้นเริ่มประมาณ 34 นิ้ว


              -ท่าบันซ์เหมาะกับนักกรีฑารูปร่างเตี้ยเมื่อนักกีฬาเข้านั่งประจำที่ปลายเท้า
หลังจรดพื้นห่างจากเส้นเท้าหน้าประมาณ 8 นิ้วและปลายเท้าหน้าห่างจากเส้นเริ่มประมาณ19 นิ้วปลายเท้าหลังห่างเส้น เริ่มประมาณ 29 นิ้ว


          2.การวิ่งระยะกลาง หมายถึง การแข่งขันวิ่งในระยะทาง 800 เมตร และ1,500 เมตร ซึ่งกำลังได้รับความนิยมกันแพร่หลายอย่างมาก ทั้งระดับนานาชาติและในระดับโลก เป็นการแข่งขันที่รวมความพร้อมของร่างกายทั้งหมด คือ กำลัง ความเร็ว ความอดทนอย่างต่อเนื่อง
            นอกจากนี้ยังรวมถึงทักษะการฝึกด้านจังหวะการก้าวการแกว่งแขนที่มีวามสัมพันธ์กันโดยต่อเนื่อง โดยให้เกิดความกลมกลืนและมีประสิทธิภาพในการแข่งขันอย่างสูงสุด


          3.การวิ่งระยะไกล หมายถึง การแข่งขันวิ่งระยะทางตั้งแต่ 1,500 เมตรขึ้นไป คุณสมบัติของนักกีฬาวิ่งระยะไกล คือ มีรูปร่างค่อนข้างสูง มีน้ำหนักปานกลาง กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงและมีจังหวะในการวิ่งที่ดีดังนั้นการฝึกหัดโดยทั่วไปก็เพื่อจะปรับปรุงในเรื่องจังหวะการก้าวขา และการแกว่งแขนที่จะใช้กำลังให้น้อยที่


          4.การวิ่งผลัด หมายถึง การแข่งขันกรีฑาประเภททีม ซึ่งต้องประกอบด้วยนักกีฬาตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ลงทำหน้าที่วิ่งในแต่ละช่วงของระยะทางตามที่ตนได้รับมอบหมาย หรือทำการตกลงไว้ภายในทีมตามปกติการแข่งขันกรีฑาประเภทวิ่งผลัดในระดับนานาชาติที่เป็นทางการ จะประกอบด้วยการวิ่งผลัดประเภท 4x100 เมตร ชาย-หญิง และ 4X400 เมตร ชาย-หญิง ส่วนระยะทางในการแข่งขันและจำนวนผู้ร่วมแข่งขัน อาจมีการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมตามสภาพเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน อีกทั้งยังอาจเป็นการฝึกทักษะเพื่อเชื่อมโยงไปถึงการวิ่งผลัดระดับมาตราฐานต่อไปได้ด้วย


           5.การวิ่งข้ามเครื่องกีดขวางหรือวิ่งวิบาก
              -ระยะทางมาตราฐาน คือ 2,000 เมตรและ 3,000 เมตร
              -ในการแข่งขันประเภท 3,000 เมตร จะมีรั้ว 28 รั้ว ให้กระโดดข้าม และมีแอ่งน้ำให้กระโดด ข้าม 7 ครั้ง ส่วนการแข่งขันประเภท 2,000 เมตร จะมีรั้วกระโดดข้าม 18 รั้วและกระโดดข้ามแอ่งน้ำ 5 ครั้ง
              -ในการวิ่งข้ามเครื่องกีดขวาง 3,000 เมตร จะมีรั้วกระโดดอยู่ 5 รั้ว /รอบ และแอ่งน้ำจะอยู่ในตำแหน่งที่จะกระโดดครั้งที่ 4 ในแต่ละรอบในระยะ 2,000 เมตรนั้น หลุมน้ำจะอยู่ในตำแหน่งที่จะกระโดดครั้งที่ 2 ในรอบแรกและรอบอื่นๆจะอยู่ตำแหน่งที่จะกระโดดครั้งที่ 4 ฯลฯ


กรีฑาประเภทลาน มีดังต่อไปนี้

          1.กระโดดไกล คือ การสปริงเท้าจากพื้นไปในอากาศ ผู้ที่สามารถเล่นกีฬาชนิดนี้ได้ดี ควรมีสมบัติ ดังนี้


              -มีพื้นฐานการวิ่งที่เร็ว
              -ต้องมีการสปริงที่ข้อเท้าดีสมบูรณ์และแข็งแรง
              -น้ำหนักของร่างกายน้อย
              -มีการประสานกันของกล้ามเนื้อและระบบประสาทดี


          2.กระโดดสูง เป็นกีฬาที่มีลักษณะรูปแบบการเคลื่อนไหวในการกระโดดมากที่สุดจุดมุ่งหมายของการวิ่งกระโดดสูงหรือการกระโดดสูงก็คือ การที่ผู้กระโดดวิ่งมาแล้วสามารถกระโดดขึ้นและลอยตัวข้ามไม้ที่พาดไว้โดยไม่ทำให้หล่น โดยจะต้องมีคุณสมบัติโดยทั่วไป ดังนี้


              -ควรมีรูปร่างสูง น้ำหนักตัวน้อย มีสปริงข้อเท้าดี
              -กล้ามเนื้อขามีความแข็งแรง วิ่งเร็ว
              -มีร่างกายอ่อนตัวดี และมีความเข้าใจในเทคนิคและทักษะการฝึกได้ดี


          3.ทุ่มน้ำหนัก เป็นกีฬาที่ต้องอาศัยโครงสร้างของร่างกายที่สูงใหญ่ แข็งแรง มีกำลัง ความเร็วความคล่องตัวตลอดจนความสัมพันธ์ในการประสานงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องทุ่มลูกน้ำหนักที่มีน้ำหนักเท่าๆกันภายในพื้นที่วงกลมที่ราบเรียบตามที่กติกากำหนดไว้โดยทุ่มออกไปข้างหน้า ผู้ที่ทุ่มได้ไกลที่สุดเป็นผู้ชนะกีฬาประเภทนี้ควรมีคุณสมบัติดังนี้
              -ต้องมีรูปร่างสูงใหญ่ น้ำหนักตัวมาก(ไม่ใช่อ้วน)
              -แขนขามีกำลังสามารถวิ่งและกระโดดได้คล่องแคล่วว่องไว


          4.ขว้างจักร ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะต้องขว้างจักรออกจากพื้นที่ภายในวงกลมให้จักรไปตามทิศทางและกติกาที่กำหนดไว้ ผู้ที่ขวางได้ไกลที่สุดเป็นผู้ชนะกีฬาประเภทนี้เหมาะกับผู้มีช่วงแขนยาวซึ่งช่วยให้เกิดการได้เปรียบขณะหมุนตัวเหวี่ยงจักร นักขว้างจักรควรมีคุณสมบัติดังนี้
             -มีร่างกายแข็งแรง
             -รูปร่างใหญ่ ล่ำสัน นิ้วมือ แขน และไหล่กว้าง มีช่วงแขนยาว
             -มีความรวดเร็ว ว่องไว ประสางและทักษะการเคลื่อนไหวดี


          5.พุ่งแหลน ผู้เข้าแข็งขันแต่ละคนจะต้องพุ่งแหลนที่มีน้ำหนักเท่าๆกันขณะที่พุ่งแหลนต้องเคลื่อนที่ไปบนทางวิ่งและพุ่งแหลนออกไปตามกติกาที่กำหนดไว้ โดยพุ่งไปข้างหน้า ผู้พุ่งได้ไกลที่สุดเป็นผู้ชนะนักกรีฑาประเภทนี้จึงต้องอาศัยกำลังและความเร็ว เพื่อพุ่งแหลนออกไปให้ได้ระยะทางไกลที่สุด คุณสมบัติโดยทั่วไปของนักพุ่งแหลนมีดังนี้
           - มีรูปร่างสูงใหญ่
           - วิ่งและกระโดดได้ดี
           - แขนยาว นิ้วมือยาว มีกำลังดึงและฟาดแขนได้รวดเร็วและแรง
           - ความสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อและระบบประสาทดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น